เข้าตรวจสอบปางช้างเผือกตามข้อร้องเรียนการจัดสวัสดิภาพสัตว์ไม่เหมาะสม

 

893533

 

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 เวลา 14.00 น.

ณ ปางช้างเผือก ตำบลท่านัด อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี

นายสมเกียรติ พันธ์ศรี ผู้อำนวยการกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ(กสบ.) ได้มอบหมายให้ น.สพ.นันทศักดิ์ มุสิกศิลป์ ตำแหน่ง นายสัตวแพทย์ชำนาญ กลุ่มคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ กสบ. ร่วมกับ นายอรงค์กร พสกภักดี ปศุสัตว์อำเภอดำเนินสะดวก โดยมีหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ฝ่ายปกครองอำเภอดำเนินสะดวก เข้าตรวจสอบปางช้างเผือกตามข้อร้องเรียนของเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ Chayanan Assawadhammanond แจ้งว่า ที่ปางช้างดังกล่าวมีการผูกโซ่มัดที่คอช้าง จำนวน 3 เชือก ซึ่งอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557

จากการลงพื้นที่เข้าตรวจสอบพบ นายถาวร ปานแก้ว ผู้จัดการปางช้างเผือก ได้ให้ถ้อยคำว่าเนื่องจากวันที่เกิดเหตุช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุ ควาญช้างทั้งหมดจำเป็นต้องไปทำการตัดอ้อยเพื่อมานำเป็นอาหารให้ช้าง ทำให้ที่โรงช้างไม่มีคนอยู่ เกรงว่าช้างจะหลุดไปทำอันตรายนักท่องเที่ยวและทำร้ายทรัพย์สินภายในโรงช้าง จึงจำเป็นต้องล่ามคอไว้เพื่อป้องกันเหตุร้ายหลังจากที่ตนได้ทราบถึงปัญหาดังกล่าวแล้วปัจจุบันทางบริษัทได้จ้างควาญดูแลผลัดเปลี่ยนกันเพิ่มขึ้น และจะไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ล่ามคอช้างอีก

ทั้งนี้นายถาวรได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่าตนรู้จักกับผู้ร้องเรียน และได้ชี้แจงทำความเข้าใจจนผู้ร้องเรียนพอใจและยินยอมแก้ไขโพสต์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยช้างตัวที่ปรากฏในภาพร้องเรียน ชื่อ พลายคำแก้ว พลายทองพูน และพลายบุญมี จากการตรวจสอบสภาพร่างกายโดยสัตวแพทย์ พบว่า บริเวณคอไม่มีบาดแผล สุขภาพทั้ง 3 ตัวแข็งแรงร่าเริงดี แต่อาจจะซุกซนตามประสาช้างรุ่น คณะพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า การล่ามโซ่คอช้างดังกล่าว ขัดกับหลักการจัดสวัสดิภาพสัตว์แต่เกิดจากเหตุสุดวิสัย จำเป็นต้องทำเพื่อป้องกันเหตุร้าย ปัจจุบันเมื่อเจ้าของทราบข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดก็ได้ปรับปรุงแก้ไขแล้ว หากมีเหตุการณ์เกิดซ้ำอีก พนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายถาวร รับทราบและยินดีปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำบันทึก และร่วมกันลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน และได้ทำการแนะนำการเลี้ยงเพิ่มเติมเพื่อให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 และจะส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำการสุ่มตรวจเป็นระยะ ๆ ต่อไป


ที่มา : กลุ่มคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ กสบ.